วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2551

นิทานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์

ณ บ้านแห่งหนึ่งแม่สาวสวยและเด็กหญิงน้อยเธอชื่อ มี่มี่ มี่มี่ไม่เคยได้รับอนุญาตจากคุณแม่ให้ออกนอบ้านคนเดียวเลย วันหนึ่งคุณแม่ให้มี่มี่ไปซื้อนมที่ปากซอยเพราะคุณแม่ทำกับข้าวอยู่แล้วให้เงินมี่มี่ 20บาทมีเหรียญ10 สองเหรียญ คุณแม่ได้บอกมี่มี่ว่าเวลาเดินที่ถนนให้ระวังรถและห้ามคุยกับคนแปลกหน้าเมื่อสิ้นคำคุณแม่ มี่มี่ก็เดินไปซื่อนมระหว่างทางมีรถจักรยานปั่นสวนมาเร็วมากทำให้มี่มี่ตกใจเดินไปชิดกำแพง มี่มี่เดินต่อไปข้างหน้าเป็นร้านขายของ มี่มี่วิ่งไปโดยไม่ดูทางทำให้สะดุดเหรียญหล่น มี่มี่เดินหยิบเหรียญจนครบ สองเหรียญเดินไปนมให้คุณแม่เมื่อได้นมแล้วก็วิ่งจะกลับบ้านแล้วก็ลืมเงินทอนมี่มี่ก็เดินไปร้านขายของใหม่แล้วบอกแม่ค้าว่า "หนูยังไม่ได้เงินทอนเลยค่ะ" แม่ค้าให้เงินทอนมี่มี่ 4 บาทเมื่อเดินมาถึงบ้านคุณแม่ถามมี่มีว่า "นมเท่าไรจ้ะ" มี่มี่ตอบคุณแม่ว่า "นม 16บาทค่ะ"

เพลงสำหรับเด็กปฐมวัย


เพลง ลูกหนู

ลูกหนูหนึ่งตัวซ่อนอยู่ใต้ตู้

อีกตัวตามมาดูรวมเป็นสองตัว

ลูกหนูสองตัวซ่อนอยู่ใต้ตู้

อีกตัวตามมาดูรวมเป็นสามตัว

ลูกหนูสามตัวซ่อนอยู่ใต้ตู้

อีกตัวตามมาดูรวมเป็นสี่ตัว

ลูกหนูสี่ตัวซ่อนอยู่ใต้ตู้

อีกตัวตามมาดูรวมเป็นห้าตัว

สรุปงานวิจัยคณิตศาสตร์


งานวิจัยครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อการเปรียบเทียบความสามารถทาวคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ซึ่งเด็กแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ทั้งด้านสติปัญญา เพศ อายุ ความพร้อมและความต้องการของเด็ก งานวิจัยครั้งนี้ทำขึ้นกับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาล 2 ปี 2543 อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จำนวน 614คน ถ โรงเรียน จัดทำโดยการสร้างแบบทดสอบทางคณิตศาสตร์ที่ใช้สื่อการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน เช่น แบบจำลองภาพต่างๆ และให้เด็กได้ลงมือกระทำแบบทดสอบ เมื่อเด็กทำแบบทดสอบเสร็จก็ทำการประเมิน เปรียบเทียบความสามารถทางคณิตสาสตร์ หลังจากนั้นนำผลการประเมินไปศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และเสริมสร้างทักษะทางคณิตศาสตร์ให้แก่เด็ก เพื่อเป็นรากฐานให้แด็กในการศึกษาในระดับชั้นต่อไป

การทำสไลด์

การทำสไลด์สนุกในการทำแต่เป็นอะไรที่ยุ่งยากมากอัพโหลดช้าและต้องรอเวลานานกว่าจะได้แต่ละรูปแต่เวลาออกมาภาพสวยดูดีดูไฮโซ(รึเปล่า)

วันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

"ทักษะคณิตศาสตร์" สร้างได้...โดย กองบรรณาธิการนิตยสารรักลูกเมื่อพูดถึงคณิตศาสตร์ ผู้ใหญ่บางคนได้ฟัง ยังหนาวๆ ร้อนๆ แล้วสำหรับเด็กเล็กๆ การเรียนรู้เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับเขาหรือไม่ ?คำตอบของคำถามข้างต้นนั้นคือ "ไม่ยากหรอกค่ะ" ถ้าเรารู้จักเนื้อหาและวิธีในการส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็ก ซึ่งเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากสิ่งรอบตัวเด็กนี่เอง...ทักษะทางคณิตศาสตร์ คือ ?ก่อนที่จะค้นหาวิธีส่งเสริมต่างๆ ให้กับเด็ก เราควรจะรู้ว่าทักษะทางคณิตศาสตร์นั้นหมายถึงเรื่องอะไรบ้าง เพราะมีหลายคนที่เข้าใจว่าคณิตศาสตร์ คือ เรื่องของจำนวนและตัวเลขเท่านั้น แต่ความจริงแล้วคณิตศาสตร์มีเนื้อหาที่กว้างกว่านั้นมาก เพราะยังหมายรวมถึงรูปทรง การจับคู่ การชั่งตวงวัด การเปรียบเทียบ การจัดลำดับ การจัดประเภท เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก็คือคณิตศาสตร์เช่นเดียวกันเริ่มได้เมื่อไหร่ดีเมื่อเรารู้ถึงเนื้อหาในเรื่องต่างๆ ของคณิตศาสตร์แล้ว เราจะพบว่าการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เด็กลืมตาดูโลก เมื่อลูกมองเห็นสีสันของโมบายที่คุณแม่แขวนเอาไว้ให้เหนือเปล เขาก็จะมองเห็นความแตกต่างของสีสันบ้านที่จัดสิ่งแวดล้อมแบบนี้ให้ลูก ก็ถือว่าได้ส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้กับเขาแล้ว เพราะหนูน้อยต้องได้สะสมประสบการณ์เหล่านี้ขึ้นมา เพื่อเป็นพี้นฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ผู้ใหญ่จัดหมวดหมู่ไว้ในอนาคต ถ้าเราไม่ตีกรอบว่าคณิตศาสตร์ คือ จำนวนและตัวเลขเท่านั้น เราก็สามารถส่งเสริมลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด ผ่านการจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมความเข้าใจที่แตกต่างการเรียนรู้ทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กแต่ละวัยย่อมแตกต่างกันไป เราสามารถส่งเสริมเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ได้ทุกด้านแต่ต่างกันตรงวิธีการค่ะสำหรับเด็กวัย 3- 4 ขวบ จำเป็นต้องเรียนคณิตศาสตร์ผ่านสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากเพราะเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น ให้เด็กสามขวบ ดูตัวเลข 2 กับ 3 แล้วเอาเครื่องหมายมากกว่าน้อยกว่าไปให้เขาใส่ เขาก็จะงงแน่นอน ว่าเจ้าสามเหลี่ยมปากกว้างนี้คืออะไร เด็กวัยนี้การเรียนเรื่องจำนวนตัวเลข ต้องผ่านสิ่งของที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ แต่ถ้าเป็นพี่ 5 หรือ 6 ขวบ จะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรมหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ได้แล้วเรียนรู้ได้จากสิ่งใกล้ตัวหลักของการส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ให้เด็ก คือ เรียนรู้จากรูปธรรมไปนามธรรม เรียนรู้จากสิ่งที่ใกล้ตัวไปสู่สิ่งที่ไกลตัว คนไทยโบราณจะมีเพลงร้องเกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเรียนเรื่องง่ายๆ ก็คือ การเรียนรู้จากอวัยวะของตัวเองนั่นเอง เช่น ตาสองตา จมูกหนึ่งจมูก หูสองหู เมื่อเด็กเกิดมานิ้วมือก็รองรับเลขฐานสิบให้เขาได้เรียนรู้ ฯลฯสิ่งเหล่านี้เป็นการเรียนคณิตศาสตร์ในเรื่องจำนวนและตัวเลขโดยไม่รู้ตัว หรือบ้านไหนที่คุณแม่จัดระเบียบ มีการแยกประเภทเสื้อผ้า เช่น ลิ้นชักชั้นล่างใส่กางเกง ชั้นสองใส่เสื้อกล้าม ชั้นสามใส่ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ลูกบ้านนี้ก็จะได้เรียนคณิตศาสตร์เรื่องการจัดกลุ่ม การแยกประเภทไปด้วยเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายค่ะที่พ่อแม่บางคนพยายามค้นหาอุปกรณ์ หรือกลวิธียากๆ ในการสอนเด็ก แต่กลับละเลยสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเหล่านี้ไปเด็กวัยนี้เรียนรู้จากการเล่นและการกระทำ เราจึงควรส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้อยู่ในชีวิตประจำวันของเขา เช่น เวลาคุณแม่จัดโต๊ะอาหารก็เรียกเจ้าตัวน้อยมาช่วยจัดด้วย ว่านี่คือจานคุณพ่อ จานคุณแม่ จานพี่ เขาก็จะได้เรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องการจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง เป็นต้น กิจวัตรประจำวันของเด็กมีคณิตศาสตร์ซ่อนอยู่มากมายค่ะ แม้แต่งานบ้านง่ายๆ ก็เป็นของวิเศษที่สามารถส่งเสริมคณิตศาสตร์ให้ลูกได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักดึงสิ่งเหล่านี้ออกมาให้ลูกเรียนรู้ จัดสภาพแวดล้อมหรือกิจกรรมแล้วเปิดโอกาสให้เขามาช่วยกันคิดขอเพียงแค่เข้าใจเมื่อเด็กเข้าเรียนอนุบาลจะเริ่มมีแบบฝึกหัดที่เป็นระบบสัญลักษณ์เข้ามา สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตลูก คือ ลูกเรานั้นมีความพร้อมที่จะรับระบบสัญลักษณ์เหล่านั้นหรือยัง ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องบังคับว่าลูกต้องเข้าใจตอนนี้นะคะ เพราะบางครั้งลูกของเราอาจจะยังคงต้องการเรียนรู้จากสิ่งที่จับต้องได้ เราก็ควรช่วยเหลือและส่งเสริมยกตัวอย่างนะคะ เมื่อมีการบ้านที่ต้องเติมเครื่องหมายมากกว่าหรือน้อยกว่า แล้วมีตัวเลข 5 กับ 6 เราอาจช่วยเตรียมสื่อให้ลูกนับประกอบการทำการบ้านประเภทเม็ดกระดุม ก้อนหิน ฯลฯ ให้เขาเห็นเป็นรูปธรรมว่ามันมากกว่าจริงๆ เพราะฉะนั้นสัญลักษณ์ที่เหมือนปากกว้างๆ นี้จะต้องหันหน้าไปกองกระดุมหรือกองก้อนหินที่มากกว่า เป็นต้นความพร้อมของเด็กย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล คุณพ่อคุณแม่เองต้องเป็นคนคอยสังเกตว่าลูกเราอยู่ในระดับใด พร้อมมากแค่ไหน ไม่มีประโยชน์ที่จะเร่งลูกในยามที่เขายังไม่เข้าใจระบบสัญลักษณ์นะคะ การที่เราไปเร่งเด็กอาจทำให้เขามีความฝังใจว่าคณิตศาสตร์นั้นมันยากแสนยาก และไม่อยากจะเรียนรู้เรื่องคณิตศาสตร์อีกอ่านต่อได้ในนิตยสารรักลูกเดือนกันยายน 2549 นี้ค่ะข้อมูลจาก : นิตยสารรักลูก ฉบับที่ 284 เดือนกันยายน พ.ศ.2549

ตารางกิจกรรมประจำวัน


07.30-08.15 น. รับเด็กเป็นรายบุคคล08.15-08.30 น. เข้าแถวเคารพธงชาติ08.30-08.50 น. สำรวจการมาโรงเรียน สันทนาการ กิจกรรมกลางแจ้ง ตรวจสุขภาพเข้าห้องน้ำล้างมือ09.10-10.00 น. รับประทานอาหารว่างเช้า10.10-10.30 น. กิจกรรมในวงกลม10.30-11.00 น. กิจกรรมสร้างสรรค์ การเล่นตามมุม11.00-12.00 น. ล้างมือ รับประทานอาหารกลางวัน12.00-14.00 น. นอนพักผ่อน14.00-14.20 น. เก็บที่นอน ล้างหน้า14.20-14.40 น. รับประทานอาหารบ่าย14.40.15.00 น. เกมการศึกษา